หลายๆ คนที่ต้องการกู้เงินกับธนาคาร มักจะกังวลว่าเมื่อยื่นกู้เงินกับธนาคารไปแล้ว ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ให้หรือไม่ แล้วถ้าอยากสมัครสินเชื่อออนไลน์ให้ผ่าน ต้องเตรียมตัวอย่างไร วันนี้เรามีเคล็ดลับมาบอกกัน

1. ต้องทำประวัติดี ก่อนยื่นขอกู้เงิน

เพราะธนาคารจะตรวจสอบข้อมูลสินเชื่อของเราผ่าน “เครดิตบูโร” หรือศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จะแสดงหนี้สินและประวัติการผ่อนชำระของเรา ถ้าเราทำข้อมูลตรงส่วนนี้ให้ดี ชำระค่างวดตรงเวลา ไม่ผิดนัดชำระหนี้ โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติเงินกู้ก็จะสูงขึ้นด้วย

2. ต้องมีความสามารถในการชำระหนี้

ธนาคารจะทำตรวจสอบว่าเรามีหนี้สินอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้ามีหนี้อยู่ ธนาคารจะนำหนี้ที่มีอยู่ปัจจุบันมารวมกับหนี้ที่เรากำลังจะขอกู้ใหม่ เพื่อพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระของเรา ดังนั้น เราควรพยายามลดหนี้ที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ของเรานั่นเอง

3. มีรายได้ตามข้อกำหนด

ธนาคารมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ด้วยกันหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยหนึ่งในนั้นคือ รายได้ ในส่วนของรายได้รวมขั้นต่ำ โดยกำหนดเกณฑ์รายได้เป็นรายได้รวม ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้กู้ที่มีรายได้ประจำไม่ถึงตามเกณฑ์ สามารถนำรายได้เสริมอื่นๆเข้ามารวมได้ เช่น ค่าโอที (OT) รายได้จากอาชีพเสริม ดังนั้น เราควรศึกษาข้อมูลหรือสอบถามรายละเอียดจากผู้ให้สินเชื่อให้ดีก่อนยื่นกู้เงิน

4. มีหลักฐานทางการเงินชัดเจน

ธนาคารจะตรวจสอบที่มาของรายได้ โดยหากเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็จะดูจาก “สลิปเงินเดือน” หรือ “หนังสือรับรองการทำงาน” เพื่อเป็นการยืนยันแหล่งที่มาของรายได้ และยังสามารถใช้ “Statement” เป็นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อได้ด้วย แต่สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว รายได้ที่เข้ามาอาจไม่ค่อยสม่ำเสมอ ดังนั้นแนะนำว่าให้นำรายได้ที่เข้ามา ฝากเข้าบัญชีก่อนนำไปใช้จ่ายในส่วนอื่น เรียกง่ายๆ ว่าเป็น “การเดินบัญชี” เพื่อให้มีหลักฐานทางการเงินที่แสดงถึงรายได้ของเราที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

จากเคล็ดลับทั้งหมดที่กล่าวมา การเตรียมความพร้อมและการใส่ใจเรื่องวินัยทางการเงิน จะช่วยให้เรามีโอกาสได้รับการพิจารณาอนุมัติกู้เงินได้ง่ายขึ้น แต่ที่สำคัญเมื่อได้รับเงินมาแล้ว ต้องไม่ลืมรักษาวินัยทางการเงิน ชำระหนี้ตรงเวลา และเราสามารถปันเงินบางส่วนนำไปลงทุนเพื่อต่อยอดเงินให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น

การซื้อบ้านมือสองจากเจ้าของบ้านเองนั้น ก็คือเราจะได้ราคาบ้านที่ไม่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับคนกลางหรือตัวแทนบ้าน การซื้อขายเป็นไปโดยสะดวก ขั้นตอนไม่มาก หากแต่ผู้ซื้อ-ขาย ก็ควรระมัดระวังในเรื่องของสัญญาซื้อ-ขายให้รอบคอบเนื่องจากเป็นการซื้อขายกันโดยตรง และต้องดำเนินการกันเองทุกขั้นตอน สำหรับผู้ซื้อที่จำเป็นต้องหาแหล่งเงินกู้ หรือสถาบันการเงินเพื่อนำเงินมาซื้อบ้าน ก็จะใช้เวลาระหว่างการวางมัดจำนี้ในการดำเนินการกู้เงินเพื่อมาชำระในวันโอนกรรมสิทธิ์บ้านต่อไป โดยสามารถนำเอกสารต่างๆ จากผู้ขายเพื่อไปยื่นเรื่องขอกู้ เมื่อผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้ว จึงไปทำการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินที่สำนักงานที่ดินต่อไป

ปัจจัยในการกู้ซื้อบ้านมือสอง

ปัจจุบันการขอสินเชื่อบ้านมือสองนั้นมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าการขอสินเชื่อบ้านใหม่ โดยเริ่มต้นที่ผู้ขอสินเชื่อต้องไปเจรจากับผู้ขายเพื่อตกลงสัญญาซื้อขายกันเอง แล้วขอสำเนาโฉนดที่ดินจากผู้ขาย พร้อมนำสัญญาซื้อขาย ไปทำเรื่องยื่นขอสินเชื่อซื้อบ้านกับธนาคาร จากนั้นธนาคารก็จะเข้าไปประเมินบ้านของผู้ขายก่อนพิจารณาอนุมัติวงเงินให้ผู้ขอสินเชื่อ และถ้าบ้านยังติดจำนองกับธนาคารอื่นอยู่ ผู้ขายก็ต้องดำเนินเรื่องไถ่ถอนจำนองกับธนาคารนั้นก่อน ธนาคารฝั่งผู้ขอสินเชื่อจึงจะรับจำนองต่อได้

ส่วนใหญ่ธนาคารจะพิจารณาอนุมัติวงเงินกู้บ้านมือสองให้เพียง 80-90% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน โดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ค่าเสื่อม ทำเลที่ตั้ง และนโยบายการรับจำนองบ้านมือสองของแต่ละธนาคาร ซึ่งแตกต่างจากสินเชื่อบ้านใหม่ที่มักจะได้วงเงินกู้เต็ม 100% หรือมากกว่านั้น

หากซื้อบ้านมือสองมาในราคาถูกแต่มีสภาพทรุดโทรม ผู้ขอสินเชื่อก็ต้องมีงบสำหรับการซ่อมแซมหรือตกแต่งใหม่ โดยเงินก้อนนี้ก็ต้องเป็นเงินของผู้ขอสินเชื่อเอง เพราะธนาคารมักจะไม่มีวงเงินให้กู้เพิ่มเติมสำหรับการซ่อมบ้านมือสอง แตกต่างจากสินเชื่อบ้านใหม่ที่ธนาคารมักจะแถมวงเงินเพิ่มสำหรับการตกแต่งต่อเติมให้ผู้ขอสินเชื่อด้วย

การใช้ระบบ AI ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมสร้างช่องว่างในระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

คุณจะไว้ใจปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อบอกวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากขึ้นหรือไม่? คุณจะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณรู้ว่าแผนกทรัพยากรบุคคลของคุณใช้ AI เพื่อพิจารณาว่าคุณเป็นผู้นำหรือไม่? หรือว่าเอไอแนะนำให้เจ้านายของคุณว่าเธอควรปฏิบัติต่อคุณดีกว่ามิฉะนั้นคุณอาจลาออกและเข้าร่วมการแข่งขันเร็ว ๆ นี้ก่อนที่ความคิดในการกระโดดของเรือจะเข้ามาในใจคุณ?

เดวิด เป็นผู้ประกอบการต่อเนื่องที่น่าประทับใจ: เขาได้เปิดตัว บริษัท สิบสองแห่งโดยเริ่มตั้งแต่เขาอยู่ในเกรดสี่ เดวิดเริ่มฝึกเป็นนักฟิสิกส์เพื่อตามรอยเท้าพ่อแม่ของเขา เขาชนะคณิตศาสตร์และฟิสิกส์โอลิมปิก จากนั้นผู้ประกอบการรายแรกของเขา“ เบี่ยงเบนความสนใจ” เขาจากการศึกษาของเขาในขณะที่จุดประกายความหลงใหลในวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และ AI – มันคุ้มค่าที่จะได้ยินเรื่องราวจากเสียงของเดวิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความกังวลของเขา ผู้ประกอบการและอาชีพทางวิทยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง

เยาวซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของ เดวิด เป็นแพลตฟอร์มการวิเคราะห์คนที่ใช้ AI ซึ่งเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของบทบาทอันทรงพลังที่ AI กำลังเริ่มเล่นในที่ทำงานโดยมีผลกระทบทางจริยธรรมอย่างรวดเร็ว เครือข่ายประสาทของ เยาวสามารถขุดและวิเคราะห์กิจกรรมของคนงานผ่านแอพพลิเคชั่นงานต่างๆเช่นอีเมล ด้วยข้อมูลเหล่านี้ AI สามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับพฤติกรรมของพนักงาน: พนักงานจะตอบสนองอีเมลบางประเภทได้เร็วแค่ไหน หรือโครงสร้างต้นไม้ของการสื่อสารของเธอ: จำนวนผู้ใต้บังคับบัญชา, กี่คนที่ทำเนียบหรือผู้บังคับบัญชาจำนวนนอก บริษัท  และอีกมากมาย

ข้อมูลในการปรับตัวของระบบ AI เยาว

ในการระบุว่าพนักงานคนไหนมีศักยภาพสูงในการเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมหรือผู้นำที่เข้มแข็ง บริษัท แจ้งให้ เยาว ทราบว่าบุคคลใดที่ถือว่าเป็นนักแสดงที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เครือข่ายประสาทของเยาว ระบุพฤติกรรมที่เป็นลักษณะเฉพาะของนักแสดงชั้นนำเหล่านี้และจากนั้นจะพบพนักงานคนอื่น ๆ ที่แสดงบางอย่างหากไม่ได้มีลักษณะเดียวกันทั้งหมด มันสามารถบอกคุณได้ว่าใครมีศักยภาพที่จะเป็นพนักงานขายหรือผู้นำที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ และสามารถบอกคุณได้ว่าคุณลักษณะใดที่พวกเขามีอยู่แล้วและสิ่งใดที่พวกเขาต้องพัฒนา

ประการที่สองอีว่าช่วยลด“ การขัดสีที่น่าเสียใจ” ให้น้อยที่สุดโดยระบุพนักงานที่มีความเสี่ยงในการลาออกสูง การตัดสินใจลาออกไม่เคยออกมาจากสีน้ำเงิน ก่อนอื่นพนักงานจะรู้สึกหงุดหงิดหรือไหม้มากขึ้น จากนั้นเธอจะเปิดกว้างขึ้นเพื่อพิจารณาโอกาสอื่น ๆ จากนั้นเธอจะหางานทำใหม่ แต่ละขั้นตอนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในพฤติกรรมของเรา: อาจจะเร็วแค่ไหนที่เราส่งอีเมลแรกในตอนเช้าหรือเร็วแค่ไหนที่เราตอบสนองหรือบางสิ่งบางอย่างในข้อความของเรา เราตรวจไม่พบการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ แต่ ระบบเยาว ทำได้

สำหรับ บริษัท ขนาดใหญ่การลดการขัดสีที่น่าเสียใจคือการสนับสนุนอันดับต้น ๆ ของ การสูญเสียและการเปลี่ยนพนักงานที่มีค่าเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมาก สิ่งนี้ทำให้ เดวิด สร้างผลตอบแทนจากการลงทุนจากการปรับใช้ ให้ง่ายต่อการระบุ สำหรับ บริษัท ขนาดเล็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเติบโตของพวกเขาการขัดสีน้อยกว่าความกังวลและคุณค่าที่มากขึ้นมาจากวิธีที่ ช่วยให้พวกเขาสร้างความสามารถและความเป็นผู้นำจากภายในกลุ่มของพวกเขา

ด้วยความกังวลที่แพร่หลายว่าเทคโนโลยีจะกำจัดงานมันสดชื่นและมั่นใจเมื่อได้ยินว่า ได้พิสูจน์คุณค่าของมันโดยการส่งเสริมการรักษาพนักงาน

อีว่ายังสามารถช่วยพนักงานแต่ละคน; มันสามารถสร้างแดชบอร์ดส่วนตัวของคุณด้วยข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่คุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณให้มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากขึ้น

มีการแลกเปลี่ยนเป็น โดยค่าเริ่มต้น จะเคารพความเป็นส่วนตัวของคุณซึ่งทำงานกับข้อมูลที่ไม่ระบุชื่อ แต่ยิ่งคุณยินดีที่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมากเท่าใดยิ่งมีข้อมูลมากขึ้นเท่านั้น ทางเลือกเป็นของคุณ

การเตรียมตัวสำหรับการทำงาน

มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้นในตลาดแรงงานรวมถึงจำนวนที่เพิ่มขึ้นของเนื่อง / ตามฤดูกาล, ภาระผูกพันหรือที่ปรึกษา

พนักงานความยากลำบากในการสรรหาพนักงานที่มีทักษะระดับฐาน บริษัท และพนักงานคือไม่ได้เตรียมตัวสำหรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับทักษะด้านเทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์ของการจัดหาแรงงาน

โอกาส:

1.ทำการบันทึก จดรายการสินค้าส่วนบุคคล

ความสนใจและประสบการณ์ของคุณอาจเปลี่ยนแปลงไปมากคุณหางานครั้งสุดท้าย เริ่มต้นด้วยรายการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณถึงวันที่ ดึงออกมาประวัติการทำงานล่าสุดที่คุณมีเนื่องจากคุณจะต้องตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแปลงเพิ่มหรือลบอะไรระบุทักษะใหม่จุดแข็งการฝึกอบรม / การรับรองใด ๆ ที่คุณอาจได้รับนับตั้งแต่ ค้นหาล่าสุด ระบุสิ่งที่คุณไม่ดีหรือพื้นที่พัฒนาที่คุณต้องทำงานในหรือที่อยู่ในการสัมภาษณ์ ใช้เวลาในการทำความเข้าใจตัวเองจุดแข็งและทักษะของคุณและไตร่ตรองเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้มันอยู่ในประวัติส่วนตัวของคุณ เรซูเม่ของคุณต้องทาสีรูปภาพของคุณคือใคร

2. การสำรวจตัวเองคุณต้องการอะไร

เริ่มต้นด้วยการทบทวนสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ – มันยืดหยุ่นหรือไม่ ? หรือมันเป็นฐานเงินเดือนของคุณหรือเปล่า? หรือมันเป็นอย่างอื่น? เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องทราบความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ต่อรองได้สำหรับคุณกับสิ่งที่ไม่เป็น บางครั้งคุณต้องย้อนกลับไปอาชีพของคุณสำหรับสิ่งที่อาจมีบทบาทที่เหมาะสำหรับคุณ สำหรับงาน 6 รูปเท่านั้นเพราะนั่นคือสิ่งที่คุณได้รับก่อนอาจส่งผลให้คุณพลาดโอกาสที่จะเดินไปทำงานหรือมีความยืดหยุ่นในการทำงานจากที่บ้าน 2-3 วันต่อสัปดาห์ ลูกค้าล่าสุดของฉันทิ้งไว้บทบาทถาวรในการลาคลอดเพื่อทำสัญญากับ บริษัท อื่นที่สูงกว่า 33%เงินเดือน (เพราะรายได้สำคัญกับเธอในเวลานั้น) มันได้ผลสำหรับเธอ หลังจากที่อยู่บนสัญญามานานกว่าหนึ่งปีเธอได้รับตำแหน่งถาวรและการขึ้นเงินเดือนอีกครั้ง

3. การตรวจสอบความเป็นจริง

ตอนนี้คุณอาจตัดสินใจว่าคุณต้องการรายได้ 6 รูปจริง ๆและงานถาวรในอุตสาหกรรมที่คุณต้องการ แต่คาดเดาอะไร ในขณะที่อาจเป็นของคุณผลลัพธ์ที่ต้องการซึ่งอาจไม่เป็นจริงหรือแม้กระทั่งกับคุณในขณะนี้ คุณต้องทำทำการบ้านและนั่นหมายถึงการออกไปและพูดคุยกับผู้คน บางทีอาจเช็คอินด้วยโค้ช, นายหน้าหรือสองคนหรือกับคนที่ทำงานในอุตสาหกรรม ยิ่งคุณค้นคว้ามากขึ้นเท่าไหร่การเตรียมตัวที่ดีกว่าคือการเข้าใจสิ่งที่มีอยู่ในตอนนี้วิธีขายดีที่สุดตัวคุณเองและบทบาทในอุดมคติของคุณ

4. การพัฒนาแผนงาน

การทำ 3 ขั้นตอนข้างต้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นจริงๆ คุณต้องมีแผนสำหรับ คุณจะค้นหางานอย่างไร คุณจะหางานที่มีศักยภาพได้อย่างไร หากคุณกำลังพึ่งพาเว็บไซต์จัดหางานออนไลน์เพียงอย่างเดียวคุณจะพลาดโอกาสในการหางานจำนวนมากเนื่องจากมี 4 ใน 5 ของตำแหน่งงานทั้งหมดยังคงพบผ่านการเชื่อมต่อเครือข่าย คุณจะเอื้อมมือออกไปติดตามอย่างไรและเมื่อไหร่

5. ขั้นดำเนินการ

มีหลายอย่างที่ต้องทำ ในกระบวนการค้นหางาน (และเป็นกระบวนการ) ลำดับและลำดับมีความสำคัญ เช่นเดียวกับการติดตามรายวันรายสัปดาห์และรายเดือนของคุณกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณได้เข้าถึงและเชื่อมต่อกับหรืองานที่คุณมีนำไปใช้กับหรือใครที่คุณกำลังติดตามด้วย นี่ไม่ใช่เวลาที่จะผัดวันประกันพรุ่งไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพในการหางานหรือมือใหม่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงนี้บางครั้งคุณต้องการความช่วยเหลือเล็กน้อย คุณอาจต้องการแรงจูงใจบ้างเป็นครั้งคราว

เมื่อ หลอดไฟ ที่บ้านเสีย เราก็รีบไปที่ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือแผนกฮาร์ดแวร์ตามห้าง เพื่อหาซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนใหม่ แต่ก็ต้องยืนงงๆอยู่นานสองนาน

เพราะมี หลอดไฟ ให้เลือกมากมาย และเมื่อเจ้าของร้านหรือพนักงานถามว่าจะซื้อหลอดไฟแบบไหนดี หลอดไส้หรือหลอดแอลอีดี ขั้วหลอด E14 หรือ E27 ชอบแสงแบบเดย์ไลท์หรือวอร์มไวท์ ใช้กี่วัตต์ ฯลฯ คราวนี้ยิ่งทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าหลอดไฟที่ซื้อมาพร้อมกับโคมไฟที่บ้านคือหลอดไฟแบบไหนกันแน่ (ถ้าไม่ได้ถอดหลอดไฟที่เสียออกมาเพื่อนำไปเป็นตัวอย่าง) แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไป วันนี้ผมมีคำแนะนำมาฝาก ถ้าต้องไปซื้อหลอดไฟอีกครั้ง ก็บอกพนักงานขายอย่างมั่นใจไปเลยว่า อยากได้หลอดไฟแบบไหนมาใช้ ไม่ต้องยืนงงๆให้เสียเวลาอีกแล้ว

1.ขั้วหลอดไฟ..สำคัญจริงๆนะ จะบอกให้

ซื้อหลอดไฟแบบไหนดี

ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ แต่ถ้าดูหลอดไฟให้แน่ๆ ต้องดูที่,,ขั้วหลอดไฟ! งานนี้ผมพูดจริงๆนะ ไม่ได้ล้อเล่น เพราะจากประสบการณ์ที่ได้พูดคุยกับหลายๆท่าน เมื่อซื้อหลอดไฟใหม่มาเปลี่ยนหลอดไฟที่เสียแล้ว แต่กลับเปลี่ยนไม่ได้ สร้างความหงุดหงิดใจได้ทั้งวัน อาจต้องเสียเวลากลับไปเปลี่ยนหลอดใหม่ที่ร้าน หรือยอมเสียเงินไปฟรีๆเลยก็มี

เรื่องนี้แก้ไขได้ ถ้าเรารู้จักหลอดไฟและลักษณะขั้วหลอดแบบมาตรฐานที่มีให้เลือกใช้กับโคมไฟแบบต่างๆ โดยสังเกตจากขั้วหลอดที่ติดอยู่ที่โคมไฟว่าเป็นแบบไหน เพราะว่าหลอดไฟกับขั้วหลอดต้องเป็นชนิดเดียวกัน (ถึงจะใส่ด้วยกันได้) เช่น ถ้าขั้วหลอดเป็นแบบเกลียว (Edison Lamp Base) หรือตระกูล E จะใช้กับหลอดไฟฐานเกลียวอย่างหลอดไส้ (Incandescent) หลอดจำปา (Candle Shape) หรือพวกหลอดตะเกียบ (Compact Fluorescent) โดยขั้วหลอดที่เป็นที่นิยมใช้กันทั่วไปก็คือ E27 และ E14 โดยตัวเลขหมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอด มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร

แต่ถ้าเป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ (Fluorescent) จะมีเขี้ยวยื่นออกมาจากปลายหลอด เพื่อสวมเข้ากับชุดรางที่ใช้งานร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์ ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้กันตามบ้านนั้นก็คือ หลอด T8 หรือหลอดผอมที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง แต่ก็ยังมีหลอดผอมจอมประหยัดหรือที่เรียกว่าหลอด T5 น้องเล็กสุดที่ให้แสงสว่างเทียบเท่ากับหลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป แต่กินไฟน้อยกว่า โดยตัว T ย่อมาจาก (Tubular) และตัวเลขตามหลังจะบอกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางชองหลอด มีหน่วบเป็นหุน

นอกจากนี้ยังมีหลอดไฟที่เน้นการส่องสว่างเฉพาะจุด เพื่อช่วยให้วัตถุอย่างภาพวาด หรือเครื่องประดับดูโดดเด่นยิ่งขึ้น นั่นคือ หลอดฮาโลเจน (Halogen) โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ หลอดฮาโลเจนแรงดันต่ำ และหลอดฮาโลเจนแรงดันทั่วไป

หลอดฮาโลเจนแรงดันต่ำ จะใช้กับแรงดันไฟฟ้า 12 โวลท์ (Volt) แต่เนื่องจากไฟบ้านเรา มีแรงดันไฟฟ้า 220 โวลท์ จึงต่อตรงเลยไม่ได้ ต้องต่อผ่านหม้อแปลงเสียก่อน ตัวอย่างหลอดประเภทนี้ก็มีทั้งหลอด G4, GU5.3, MR16 ฯลฯ

ส่วนหลอดฮาโลเจนแรงดันทั่วไป ที่ระบุว่าใช้กับแรงดันไฟฟ้า 220 โวลท์ สามารถต่อตรงได้เลย ไม่ต้องมีหม้อแปลง หลอดประเภทนี้ก็มีทั้งหลอด G9 , GU10 ,GX53 เป็นต้น

2. Warm white, Cool white, Daylight เลือกให้ถูก..ใช้ให้เป็น!

การเลือกซื้อหลอดไฟ นอกจากต้องดูที่ขั้วหลอดให้ชัวร์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเช็คให้แน่ใจก่อนซื้อก็คือ เรื่องโทนสีของแสงจากหลอดไฟนั่นเอง เพราะแสงนั้นมีผลกับอารมณ์และประสิทธิภาพในการมองเห็น โดยเฉพาะหลอดไส้ และหลอดประหยัดไฟที่นิยมใช้งานกันตามบ้านพักอาศัย

ทั้งนี้อุณหภูมิสี (Color Temperature) ของแสงจากหลอดไฟมีหน่วยเป็นเคลวิน (Kelvin) โดยอุณหภูมิสีจะบอกเราได้ว่าแสงที่ได้มีความขาวบริสุทธิ์มากน้อยแค่ไหน ถ้าหลอดไฟมีค่าอุณหภูมิสีของแสงน้อย แสงที่ได้จะออกมาในโทนสีเหลือง แต่ถ้าค่าอุณหภูมิสีของแสงสูงขึ้น แสงที่ได้จะออกมาในโทนสีขาวหรือสีขาวอมฟ้า

โดยทั่วไปแสงของหลอดไฟ มีให้เลือก 3 โทนสี ได้แก่

Warm white จะให้แสงสีแดงอมส้ม หรือขาวอมเหลือง เป็นสีโทนร้อน เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง ช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 2,700 – 3,300 เคลวิน
Cool white แสงจะเริ่มออกมาทางสีขาว เป็นสีโทนเย็น ดูแล้วสบายตา นิยมใช้กันในร้านค้าต่างๆ อาทิ ร้านขายผักหรือผลไม้ เพื่อช่วยให้สีสันของสินค้าดูสดใสกว่าความเป็นจริง โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 4,000 – 4,500 เคลวิน
Daylight ให้แสงสีขาวอมฟ้านิดๆ แต่ใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในช่วงกลางวัน เราจึงพบเห็นได้มากที่สุดในชีวิตประจำวัน โดยค่าอุณหภูมิสีของแสงอยู่ที่ 6,500 เคลวิน ขึ้นไป

อุณหภูมิสี (Color Temperature) ของแสงจากหลอดไฟ

3. ความสว่างและประหยัด..คุณเลือกเองได้!

การเลือกความสว่างของหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานนั้น แม้ว่าหลอดไฟที่มีรูปทรงเหมือนกัน อาจให้แสงสว่างที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับค่าความสว่าง ซึ่งมีหน่วยเป็น Lumen (lm) เราสามารถดูค่าความสว่างของหลอดไฟได้จากบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีระบุอยู่ข้างกล่อง ยิ่งค่า lumen มาก ความสว่างก็จะมากขึ้นเช่นกัน ส่วนจำนวนวัตต์ (Watt) จะเป็นการบอกถึงกำลังในการกินไฟนั่นเอง เช่น หลอดไส้ขนาด 60 วัตต์ จะให้แสงสว่าง 600 ลูเมน แต่เมื่อเทียบกับหลอดไฟ LED

(Light Emitting Diode) ที่ได้มาตรฐานจะให้ความสว่างเท่ากัน แต่จะกินไฟเพียง 7 วัตต์ เป็นต้น ดังนั้นหลอดไฟจะประหยัดไฟมากน้อยเพียงใด เราคงไม่ได้ดูแค่กำลังวัตต์อย่างเดียว ควรต้องดูควบคู่ไปกับค่าความสว่าง ค่าประสิทธิผล รวมถึงอายุการใช้งานของหลอดไฟด้วยนะ

การลงทุนเป็นเรื่องของการที่ได้มีการนำเงินของตัวเองที่ได้มาจากการเก็บออมจากการทำงานและมีความต้องการจะนำไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้นกว่าเดิมนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากสำหรับการเริ่มต้นในการทำธุรกิจที่จำเป็นจะต้องมีเงินลงทุนสำหรับการทำธุรกิจเอาไว้ใช้ และในเรื่องของการเริ่มต้นทำธุรกิจในยุคสมัยปัจจุบันที่ได้มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีเข้ามาช่วยนั้น ทำให้รูปแบบการทำธุรกิจในปัจจุบันนี้เองก็มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม

จากการที่ได้มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำธุรกิจนั้น ได้มีรูปแบบการทำธุรกิจรูปแบบใหม่เกิดขึ้นมาด้วยโดยเป็นรูปแบบการทำธุรกิจออนไลน์ ที่มีการใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่สามารถจะติดต่อกับผู้คนได้ทั่วทั้งโลกและยังเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันนี้ ซึ่ง การลงทุนรูปแบบธุรกิจออนไลน์ นั้นก็อาจจะเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าที่จะลงทุนเพื่อใช้เป็นช่องทางสำหรับการทำธุรกิจให้เพิ่มรายได้ให้เกิดขึ้นมาได้อย่างมาก และเป็นการทำธุรกิจที่มีโอกาสสร้างรายได้มากกว่าการทำธุรกิจรูปแบบเดิมเนื่องจากในปัจจุบันนี้เองการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีนั้นกำลังมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดและยังคาดว่ายังจะมีการพัฒนาต่อไปเพื่ออำนวยความสะดวกความต้องการของผู้คนในปัจจุบันที่ต้องการสิ่งที่จะมาช่วยอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำธุรกิจที่ได้มีการใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตมาเป็นช่องทางการทำธุรกิจที่สำคัญ และช่องทางอินเทอร์เน็ตเองก็ได้รับความนิยมเข้าใช้งานกันเป็นอย่างมากจากการเป็นแหล่งรวมข้อมูลสำคัญในแต่ละอย่างที่ได้มีผู้เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตนำข้อมูลเหล่านั้นมาลงเอาไว้เพื่อให้ผู้ที่มีความสนใจและกำลังมองหาวิธีการนั้นอยู่ได้พบเจอ จึงทำให้การทำธุรกิจนำมาใช้เป็นวิธีการที่มาช่วยให้การทำธุรกิจนั้นมีโอกาสสร้างรายได้จากการมีลูกค้าที่ไม่ได้มีเพียงแค่ในประเทศแต่สามารถที่จะหาลูกค้าได้จากทั่วทั้งโลก

การลงทุนรูปแบบธุรกิจออนไลน์ จึงเป็นอีกทางเลือกสำหรับการทำธุรกิจที่มีโอกาสที่จะสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้จากการมีช่องทางอินเทอร์เน็ตมาเป็นตัวช่วยให้การทำธุรกิจมีโอกาสที่จะมีรายได้เข้ามาในการทำธุรกิจ และเรื่องของการทำธุรกิจในปัจจุบันนี้เองก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบเดิมและมีการใช้รูปแบบการทำธุรกิจออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น และยังมีผู้เข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีจำนวนมากอีกทำให้การสร้างรายได้นั้นมีเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม การลงทุนรูปแบบธุรกิจออนไลน์ จึงเป็นอีกทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการจะทำธุรกิจของตัวเองหากมีความตั้งใจที่จะลงมือทำก็ยิ่งมีรายได้เข้ามาสู่การทำธุรกิจที่ได้มีการลงทุนเอาไว้

ปัจจุบันคนหันมาขายของออนไลน์กันมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน หรือใช้เงินลงทุนให้ยุ่งยากก็สามารถขายสินค้าได้ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจ ที่สำคัญสื่อโซเชียลมีเดียยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง หลายคนจึงพุ่งเป้าหมายมาเน้นช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้ ข่าวสาร เนื้อหา สินค้าบริการต่าง ๆ เสิร์ฟหน้าฟีดอยู่ตลอดเวลา การจะหยุดให้คนสนใจสินค้าและบริการของเรานั้นประกอบด้วยหลายปัจจัย รูปภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะตรึงปลายนิ้วคนหยุดดู เพราะภาพเดียวสื่อความหมายได้มากกว่าคำพูดเป็นร้อยคำ

ทริคง่าย ๆในการรับถ่ายภาพสินค้าให้โดดเด่นและสวยสะดุดตาโดยไม่ต้องพึ่งสตูดิโอราคาแพง พร้อมแก้ปัญหาเรื่องภาพที่หลายคนต้องพบเจอ

การจะหยุดให้คนสนใจสินค้าและบริการของเรานั้น รูปภาพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะตรึงปลายนิ้วคนหยุดดูได้
ภาพถ่ายเกิดขึ้นได้แค่คุณมีจินตนาการ และยังสามารถสร้างสรรค์ทำให้เกิดมูลค่าขึ้นมาได้ หากรู้และเข้าใจเทคนิคของการจัดแสงเพื่อให้ภาพดูน่าสนใจ
หลายท่านสามารถถ่ายภาพได้จากโทรศัพท์มือถือ แต่ก็มักจะพบปัญหาเรื่องเงาสะท้อน หากเข้าใจหลักการจัดแสง ไม่ว่าจะถ่ายภาพอะไร หรือรูปแบบอะไร เรื่องเงาสะท้อนจะไม่เป็นปัญหา
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือองค์ประกอบภาพ รูปภาพที่โชว์ความโดดเด่นและสวยงามของสินค้าได้ จะยิ่งช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการสั่งซื้อ
กลยุทธ์เพิ่มมูลค่าให้ภาพถ่าย ได้แก่ อาจใช้ตัวสินค้าเองเป็นองค์ประกอบ ใส่คำบรรยายบอกรายละเอียดสินค้า มีพรีเซ็นเตอร์ ใช้เทคนิคการวางมุมภาพ เพิ่มเรื่องราวให้ภาพด้วยการจัดแสงหรือของประกอบฉาก ควรใส่รายละเอียดสินค้า เช่น ราคา ขนาด ชื่อรุ่น ที่สำคัญไม่ควรตกแต่งภาพให้เกินจริง เพราะจะขาดความน่าเชื่อถือ
วัตถุในการถ่ายรูปมี 3 แบบ คือ วัตถุโปร่งแสง วัตถุสะท้อนแสง และวัตถุทึบแสง ซึ่งใช้หลักในการจัดแสงที่แตกต่างกัน แสงที่ใช้ในการถ่ายรูปประกอบด้วย Main Light , Fill Light และ Background Light โดยต้องเลือกจำนวนไฟ ทิศทาง และระยะ อย่างเหมาะสมจึงจะได้ภาพที่สวยงามในแบบที่ต้องการ

เลือกถ่ายภาพพรีเวดดิ้งอย่างไรไม่ให้พัง อ่านก่อนดีกว่าปวดหัวทีหลังนะจ๊ะ

ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งทั้งทีก็ต้องถ่ายให้ดีให้ปังสิ เจ้าบ่าวพร้อม เจ้าสาวพร้อม แต่ช่างภาพล่ะจ๊ะหาได้หรือยัง … แต่บอกก่อนเลยนะ ว่าหาได้แล้วก็อย่าเพิ่งวางใจไป เพราะเราเห็นได้บ่อยๆ จากกรณีที่บ่าวสาวออกมาบ่นลงโซเชียลถึงเหตุการณ์ ช่างภาพพรีเวดดิ้ง ถ่ายภาพออกมาแล้วพังแทนที่จะปังเสียนี่

แต่ไม่ต้องเครียดกันค่ะ เพราะทุกปัญหามีทางออกนะจ๊ะ เพียงแต่เราต้องรู้วิธีแก้เท่านั้นเอง เลยขอนำเทคนิคการเลือกถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง อย่างไรให้ปังมาแนะนำค่ะ

1. ดูจากผลงานเป็นหลัก

ผลงานที่ว่าคือทั้งผลงานภาพถ่ายและชื่อเสียงของภาพนะจ๊ะ ลองดูว่าชื่นชอบแนวภาพถ่ายไหม เพราะช่างภาพที่ถ่ายสวยก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแนวภาพที่เราชอบ และแนวภาพที่เราไม่ชอบก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่สวย (ยังไม่งงกันเนอะ) เพราะฉะนั้นอันดับแรกว่าที่บ่าวสาวต้องหาสไตล์ภาพพรีเวดดิ้งที่ตัวเองชอบให้ได้ก่อน แล้วค่อยติดต่อหาช่างภาพคนนั้นๆ โดยดูจากชื่อเสียง และการรีวิวของลูกค้านั่นเองค่ะ และที่สำคัญต้องเลือกช่างภาพที่มีสไตล์ตรงกับภาพถ่ายที่เราอยากได้ด้วยนะคะ

2. ราคา

เราไม่ได้มาหลอกให้ว่าที่บ่าวสาวต้องเลือกช่างภาพจากราคานะจ๊ะ แต่แค่ต้องลองดูให้สมเหตุสมผล ว่าถูกไปหรือแพงไปไหม โดยอาจจะตัดสินจากผลงานเป็นหลัก อย่าเพิ่งเอาราคามาตัดสิน และขอเน้นยำเลยว่า ของถูกและดีมันไม่มีในโลกนะจ๊ะ หรือถ้ามีก็แค่ 0.01% เท่านั้น เพราะฉะนั้นบางครั้งการลงทุนก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะภาพถ่ายนั้นเป็นสิ่งที่จะอยู่กับว่าที่บ่าวสาวไปตลอด แล้วคุณจะยอมเอาภาพถ่ายครั้งสำคัญในชีวิตไปแลก เราว่ามันไม่คุ้มกันเลยน้าาา

3. เลือกช่างภาพตามท้องถิ่น

สำหรับกรณีที่บ่าวสาวจะออกเดินทางไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งนอกสถานที่ ลองหาช่างภาพตามแต่ละท้องถิ่นดู เพราะว่าช่างภาพจะรู้มุมเด็ดๆ ของแต่ละสถานที่นั้นๆ และรู้ว่าจะต้องปฎิบัติตัวอย่าไร เตรียมอะไรเข้าไปถ่ายได้บ้าง และแน่นอนว่าภาพก็จะออกมาเป๊ะปัง ส่วนในเรื่องของผลพลอยได้ ว่าที่บ่าวสาวก็อาจจะได้ราคาที่ถูกลงเพราะช่างภาพไม่ต้องเดินทางค่ะ

4. อุปกรณ์

อันนี้ลองสังเกตดูเนอะ ว่าช่างภาพมีอุปกรณ์พร้อมไหม ไม่ว่าจะไฟเสริม แผ่นรีเฟล็ก กล้อง หรือเลนส์ต่างๆ ยิ่งถ้าหากออกนอกสถานที่ด้วยแล้วทุกอย่างต้องพร้อม และช่างภาพที่เป็นมืออาชีพจะมีลูกทีมและอุปกรณ์ที่ครบครัน ดังนั้นลองสังเกตก่อน อ่านรีวิวเยอะๆ และลองเข้าไปส่องตามเพจ ตามไอจีดูกันก่อนเนอะ

5. ฟีดแบคจากลูกค้า

โลกเราพัฒนาไปไกลมาก ลองอ่านรีวิวจากเฟซบุ๊ก เว็บบล็อกต่างๆ ให้เยอะ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่ามองแต่พอร์ทที่สวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งงานดีจริง แต่อาจใช้เวลาส่งงานลูกค้านาน 2-3เดือน แบบนี้ก็ไม่ไหวเนอะ เพราะอาจจะรอจนไม่อยากดูไปเลย!!